วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หลักการใช้ MAKING QUESTIONS ในภาษาอังกฤษ

หลักการใช้ MAKING QUESTIONS ในภาษาอังกฤษ


ในทุกชาติ ทุกภาษา การสอบถามข้อมูลถือเป็นเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมากมาย ผู้คนทั่วโลกต้องการรับทราบข้อมูลทั้งทางตรงและทางอ้อม กล่าวคือ ในทางตรงผู้คนทั่วไป ใช้การพูดคุยซักถามกัน ส่วนในทางอ้อมได้ข้อมูลจากสื่อประเภทต่างๆ ดังนั้นใน เรื่องต่อไปนี้จะขอกล่าวถึงการสร้างคำถามเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องการ
Making questions (เมคิ่ง เควสเชิ่นสฺ) หรือ “การสร้างคำถาม” ในภาษาอังกฤษอาจแบ่งกล่าวอย่างกว้างๆ ได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่คือ
ก. การถามเพื่อให้ผู้ตอบตอบ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” นั่นคือ Yes-No questions
ข. การถามเพื่อให้ผู้ตอบให้รายละเอียด นั่นคือ Wh-word questions หรีอบางคนเรียก Information questions (อินฟอเมเชิ่น เควสเชิ่นสฺ)
Yes-No questions
Yes-No questions เป็นรูปแบบของคำถามที่ผู้ตอบสามารถตอบว่า Yes หรือ No มีวิธีการสร้างคำถามแบบนี้โดยสรุปได้ดังนี้
1. เราสามารถสร้างคำถาม Yes/No ด้วยการสับตำแหน่งของภาคประธาน (subject ซับเจ็กทฺ) และคำกริยาช่วย (helping/auxiliary verb เฮ้วพิ่ง เวิบ/ ออซิเลียริ เวิบ) ดังนี้
Subject + Helping verb +
Helping verb + subject +…….
ตัวอย่าง
Susan is coming here this afternoon.
→Is Susan coming here this afternoon?
ซูซานจะมาที่นี่บ่ายนี้ใช่ไหม
They have just finished their work.
→Have they just finished their work?
พวกเขาเพิ่งจะทำงานเสร็จใช่ไหม
The boy can swim well.
→Can the boy swim well?
เด็กชายว่ายน้ำเก่งใช่ไหม
หมายเหตุ คำกริยาช่วยในภาษาอังกฤษที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างคำถามแบบนี้ ได้แก่ can, could, may, might, must, will, would, shall, should, ought to, is, am, are, was, were, have, has, had
2. ถ้าหากมีคำกริยาช่วย 2 คำ ให้ใช้คำกริยาช่วยคำแรกเป็นส่วนที่นำมาวางหน้าประโยคเพื่อสร้างคำถามแบบ Yes-No
ตัวอย่าง
He has been waiting here for two hours.
→Has he been waiting here for two hours?
เขารออยู่ที่นี่เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้วใช่ไหม
The job will be finished soon.
→Will the job be finished soon?
งานจะเสร็จในไม่ช้าใช่ไหม
3. ในกรณีที่ไม่มีคำกริยาช่วยใดๆ ในประโยค ให้ใช้คำกริยาช่วย do/does (ใน present simple) และ did (ใน past simple)
ตัวอย่าง
They live here.
→Do they live here?
พากเขาอาศัยอยู่ที่นี่ใช่ไหม
Mary likes tennis very much.
→Does Mary like tennis very much?
แมรี่ชอบเล่นเทนนิสมากใช่ไหม
Mark enjoyed the film.
→Did Mark enjoy the film?
มาร์คชอบภาพยนตร์เรื่องนั้นหรือเปล่า
John went to the concert yesterday.
→Did John go to the concert yesterday?
เมื่อวานนี้จอห์นไปคอนเสิร์ตใช่ไหม
ข้อสังเกต คำกริยาแท้ทุกคำ เมื่ออยู่ในรูปของ Yes-No questions โดยใช้ Does จะต้องเปลี่ยนให้อยู่ในรูปปกติช่อง 1 เช่น ถ้ามี -s/-es ข้างท้ายต้องตัด -s/-es ทิ้ง ดังตัวอย่าง Does Mary like tennis very much?
คำกริยาแท้ทุกคำ เมื่ออยู่ในรูปของ Yes-No questions โดยใช้ Did จะ ต้องเปลี่ยนให้อยู่ในรูปปกติช่อง 1 นั่นคือ หากเป็นคำกริยาปกติช่อง 2 ที่ลงท้ายด้วย -ed ให้ตัด -ed ทิ้ง ดังตัวอย่าง Did Mark enjoy the film? หรือถ้าหากเป็นคำกริยาอปกติช่อง 2 ก็ต้องใช้ช่อง 1 ดังตัวอย่าง
Did John go to the concert yesterday?
Wh-word questions
Wh-word questions เป็นรูปแบบของคำถามที่ผู้ตอบจะให้ข้อมูลรายละเอียด ลักษณะของคำถามแบบนี้จะขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words หรือ question words (เควสเชิ่น เวิดสฺ) ได้แก่ What, Where, Who, Whose, When, Why, Which, How (old, often, much, many, far, …) โดยมีวิธีการสร้างคำถามดังนี้
1. What
ใช้ What + noun เช่น What color, What nationality, … หรือใช้ What โดยไม่มี noun ตามเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ
ตัวอย่าง
What color is your car?
รถยนต์ของคุณสีอะไร
What are you doing?
คุณกำลังทำอะไร
What would you like to drink?
คุณอยากดื่มอะไร
What happened?
เกิดอะไรขึ้น
What’s the matter?
เป็นอะไรไป
Monday’s no good. What about Tuesday?
วันจันทร์ไม่ดี เอาเป็นวันอังคารดีไหมล่ะ (What about ใช้เพื่อเสนอแนะ) I’m ready to go. What about you?
ผมพร้อมที่จะไปแล้ว แล้วคุณล่ะ (พร้อมหรือยัง)
What sort of dog is it?
สุนัขพันธุ์อะไร
What does he look like?
เขาหน้าตาอย่างไร
What’s it like learning English?
การเรียนภาษาอังกฤษเป็นอย่างไร
2. Where
ใช้ Where เพื่อถามเกี่ยวกับสถานที่
ตัวอย่าง
Where are you going on holiday?
คุณจะไปเที่ยวไหนในวันหยุด
Where does Mary live?
แมรี่อาศัยอยู่ที่ไหน
3. Who
ใช้ Who เพื่อสอบถามว่าเป็นใคร โดยสามารถถามได้ทั้งบุคคลที่ทำหน้าที่ภาคประธานหรือภาคกรรมของประโยค โปรดสังเกตโครงสร้างต่อใปนี้
ถามเกี่ยวกับภาคประธาน        ถามเกี่ยวกับภาคกรรม
Mary loves John.                          Mary loves John.
Q : Who loves John?                    Q : Who does Mary love?
A : Mary.                                           A : John.
ก – ใครรักจอห์น                                ก – แมรี่รักใคร
ข – แมรี่                                                ข – จอห์น
Mary phoned John.                      Mary phoned John.
Q : Who phoned John?                Q : Who did Mary phone?
A : Mary.                                            A : John.
ก – ใครโทรศัพท์ไปหาจอห์น           ก – แมรี่โทรศัพท์ไปหาใคร
ข – แมรี่                                                ข – จอห์น
ข้อสังเกต เมื่อใช้ Who เพื่อถามเกี่ยวกับภาคประธานของประโยค จะใช้โครงสร้าง
Who + กริยาแท้ + ภาคกรรมหรืaส่วนขยาย
เมื่อใช้ Who เพื่อถามเกี่ยวกับภาคกรรมของประโยค จะใช้โครงสร้าง
Who + กริยาช่วย + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ส่วนขยาย (ถ้ามี)
4. Whose
ใช้ Whose + noun เช่น Whose car, Whose book, … หรือใช้  Whose โดยไม่มี noun ตามเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ
ตัวอย่าง
A : Whose book is this?
B : It’s Mary’s.
ก – หนังสือเล่มนี้ของใคร
ข – มันเป็นของแมรี่
A : Whose is this book?
B : It’s mine.
ก – หนังสือเล่มนี้ของใคร
ข – มันเป็นของผม
5. When
ใช้ When เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเวลา
ตัวอย่าง
A : When were you born?
B : In 1980.
ก – คุณเกิดเมื่อไร
ข – เกิดปี ค.ศ. 1980
A : When is Mary leaving for London?
B : At 2 p.m.
ก – แมรี่จะออกเดินทางไปลอนดอนเมื่อไร
ข – ออกเดินทางเวลาบ่าย 2 โมง
6. Why
ใช้ Why เพื่อถามถึงเหตุผลหรือวัตถุประสงค์
ตัวอย่าง
A : Why are you late?
B : Because my car broke down.
ก – ทำไมคุณมาสาย
ข – เพราะรถยนต์ของผมเสีย
A : Why did you go out?
B : To do some shopping.
ก – คุณออกไปข้างนอกทำไม
ข – ไปซื้อของ
7. Which
ใช้ Which + noun เช่น Which color, Which pen,… หรือใช้ Which โดยไม่มี noun ตามเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ หรือบุคคลที่จำเป็นต้องคัดเลือกตัว เลือกไว้เพียงหนึ่ง
ตัวอย่าง
A : Which color do you like best…red, blue, or yellow?
B : Blue.
ก – คุณชอบสีไหนมากที่สุด แดง น้ำเงิน หรือเหลือง
ข- น้ำเงิน
A : Which would you like…wine or beer?
B : Wine.
ก – คุณซอบสิ่งไหน ไวน์ หรือ เบียร์
ข – ไวน์
8. How
ใช้ How + adjectives เช่น How old, How tall, How high, How far … หรือใช้ How + adverbs ฟน How often, How well รวมถึงใซ้ How + many/much โดยที่ความหมายจะเป็นไปตามคำที่ตามหลัง ส่วนที่ใช้ How โดยไม่มีคำดังระบุมานี้ตามหลัง จะแปลว่า “อย่างไร”
ตัวอย่าง
A : How do you usually go to school?
B : By .bus.
ก – ปกติคุณไปโรงเรียนอย่างไร
ข – ไปโดยรถประจำทาง
A : How often do you go to the cinema?
B : Once a month.
ก – คุณไปชมภาพยนตร์บ่อยครั้งเท่าไร
ข – เดือนละครั้ง
A : How much money have you got with you?
B : 150 baht.
ก – คุณมีเงินอยู่เท่าไร
ข – 150 บาท
A : How is your mother now ? Is the feeling any better?
B : She’s a lot better.
ก – ตอนนี้คุณแม่ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง อาการดีขึ้นไหม
ข – แม่อาการดีขึ้นมาก
A : How many houses have you got?
B : Two.
ก – คุณมีบ้านกี่หลัง
ข- 2หลัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น