การทดสอบภาษาอังกฤษเคมบริดจ์
Cambridge English Exam by CEFR
Level
การสอบ Cambridge English แตกต่างจากการสอบอื่นๆ
เพราะว่าการสอบ Cambridge เป็นการสอบแบบ ‘ผ่านหรือไม่ผ่าน’ ผลการสอบ Cambridge นี้ไม่มีวันหมดอายุ ดังนั้นจึงเหมาะที่จะสอบเมื่อเรียนจบคอร์สภาษาอังกฤษเหมือนกับการสอบไฟนอลของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย
ดังนั้นจึงสำคัญยิ่งที่คุณต้องเลือกระดับที่เหมาะกับคุณจริงๆเมื่อเข้าสอบ
โดยมีการจำแนกระดับ 4ระดับหลักๆ ดังต่อไปนี้:
1.     
PET – Cambridge English: Preliminary
เป็นระดับต่ำสุด
ระดับนี้แสดงให้เห็นว่าคุณมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษอยู่ในระดับที่สามารถสื่อสารและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไปได้
ในระดับของ PET ใช้เวลาในการสอบ 2 ชั่วโมง 20
นาทีเกณฑ์เป้าหมายคือระดับ B2 – A2แบ่งออกเป็น
3 ส่วน ดังนี้ 
·      
การอ่านและการเขียน      ใช้เวลา1 ชั่วโมง 30 นาที / 8 ส่วน
·      
การฟัง                           ใช้เวลา  36 นาที / 4 ส่วน
·      
การพูด                          ใช้เวลา  10 -12 นาทีต่อคู่ของผู้สมัคร
/ 4 ส่วน

2.     
FCE – Cambridge English: First
ผู้ที่อยู่ในระดับชั้นกลางขั้นสูงสามารถเข้าสอบระดับนี้ได้ ระดับนี้แสดงให้เห็นว่าภาษาอังกฤษของคุณดีในระดับที่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องในระดับนี้จะใช้เวลาในการสอบทั้งหมด
3 ชั่วโมง
50 นาที เกณฑ์คะแนนเป้าหมายอยู่ในระดับ B2 แบ่งออกเป็น
4 ส่วนดังนี้
·      
การอ่านและการใช้ภาษาอังกฤษ   ใช้เวลา1 ชั่วโมง 15 นาที / 7 ส่วน
·      
การเขียน                                    ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
20 นาที / 2 ส่วน
·      
การฟัง                                       ใช้เวลา  40 นาที / 4 ส่วน
·      
การพูด                                      ใช้เวลา  14 นาที ต่อคู่ของผู้สมัคร / 4 ส่วน
| 
Cambridge English Scale Score | 
Grade | 
CEFR Level | 
| 
180 – 190 | 
Grade A | 
C1 | 
| 
173 – 179 | 
Grade B | 
B2 | 
| 
160 – 172 | 
Grade C | 
B2 | 
| 
140 - 159 | 
Level B1 | 
B1 | 
3.     
CAE –
Cambridge English: Advanced
ผู้ที่อยู่ในระดับก้าวหน้าขั้นสูงสามารถเข้าสอบในระดับนี้ได้
เพื่อให้ผ่านระดับนี้คุณจำเป็นต้องมีทักษะด้านการเขียนและการพูดที่ดีมากๆในระดับนี้ใช้เวลา
4 ชั่วโมง เกณพ์คะแนนเป้าหมายอยู่ในระดับ C1
แบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังนี้
·      
การอ่านและใช้ภาษาอังกฤษ         ใช้เวลา
1 ชั่วโมง 30 นาที / 8 ส่วน
·      
การเขียน                                    ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที / 2 ส่วน
·      
การฟัง                                       ใช้เวลา 40 นาที / 4 ส่วน
·      
การพูด                                      ใช้เวลา 15 ต่อคู่ของผู้สมัครสอบ /4 ส่วน
| 
Cambridge
  English Scale Score | 
Grade | 
CEFR
  Level | 
| 
200 – 210 | 
Grade A | 
C2 | 
| 
193 – 199 | 
Grade B | 
C1 | 
| 
180 – 192 | 
Grade C | 
C1 | 
| 
160 - 179 | 
Level B2 | 
B2 | 
4.     
CPE –
Cambridge English: Proficiency
สำหรับนักเรียนที่ต้องการพิสูจน์ว่าระดับภาษาอังกฤษของตนนั้นใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาต้องสอบระดับนี้ครับ
นี่เป็นการสอบที่ยากที่สุด ในระดับนี้ใช้เวลา 4 ชั่วโมง เกณฑ์คะแนนเป้าหมายอยู่ในระดับ C2 แบ่งออกเป็น4
ส่วนดังนี้
·      
การอ่านและใช้ภาษาอังกฤษ         ใช้เวลา
1 ชั่วโมง 30 นาที / 7 ส่วน
·      
การเขียน                                    ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที / 2 ส่วน
·      
การฟัง                                       ใช้เวลา 40 นาที / 4 ส่วน
·      
การพูด                                      ใช้เวลา 16 ต่อ 1 ผู้สมัครสอบ /3 ส่วน
| 
Cambridge
  English Scale Score | 
Grade | 
CEFR
  Level | 
| 
220 – 230 | 
Grade A | 
C2 | 
| 
213 – 219 | 
Grade B | 
C2 | 
| 
200 – 212 | 
Grade C | 
C2 | 
| 
180 – 199  | 
Level C1 | 
C1 | 
ในทุกระดับของการสอบ
Cambridge
English ผู้สมัครจะได้รับ Statement of Result ทุกคน และถ้าผู้สมัครสามารถทำข้อสอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้
จะได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองว่าผู้สมัครได้ผ่านการทดสอบในครั้งนี้เพิ่มอีกด้วย
มาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ
เป็นการกำหนดมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ
ของประชากรของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป เพื่อให้โรงเรียนทุกๆ โรงเรียน
ในแต่ละประเทศที่เป็นชาติสมาชิกในสหภาพยุโรป ได้ออกแบบหลักสูตร
และอำนวยการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ที่มุ่งเน้นในการพัฒนา “ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ (English
Proficiency)” ให้กับประชากรของตนเอง เพื่อให้ประชากรของทุกๆ
ประเทศในสหภาพยุโรป สามารถใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษากลาง ในการสื่อสาร
แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และองค์ความรู้ต่างๆ
ตลอดจนสามารถประสานงานเพื่อดำเนินธุรกรรมและธุรกิจร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยปัจจุบันกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ CEFR นั้น
ถือว่าเป็นมาตรฐานในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
โดยกรอบมาตรฐาน CEFR ได้แบ่งความสามารถทางภาษาอังกฤษเป็น 6
ระดับ ดังต่อไปนี้
1.     
Proficient
User:
·      
C1 (Very
Advanced):   สามารถเข้าใจภาษาอังกฤษผ่านการฟัง และการอ่านได้อย่างคล่องแคล่ว ครบถ้วน
สามารถสรุปใจความ จากการรับฟัง และการอ่านจากแหล่งข้อมูลหลายๆ แหล่งได้
สามารถนำเสนอความคิดเห็น ข้อโต้แย้ง เหตุผลประกอบต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว
สามารถแนะนำพูดคุยภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง
คล่องแคล่วเป็นธรรมชาติ
·      
C2 (Advanced):  สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริง
ในประโยคภาษาอังกฤษที่มีความซับซ้อนได้ สามารถพูดคุยภาษาอังกฤษได้เป็นธรรมชาติ
โดยมีการติดขัดให้เห็นได้ไม่บ่อยนัก สามารถใช้ภาษาอังกฤษในสังคม การเรียนหนังสือ
และการประกอบอาชีพ ได้อย่างถูกต้อง คล่องแคล่ว
สามารถใช้ภาษาอังกฤษที่มีโครงสร้างประโยคที่มีความซับซ้อนในการสื่อสารได้
2.     
Independent
User:
·      
B2 (Higher
Intermediate):   สามารถเข้าใจใจความสำคัญของภาษาอังกฤษที่ซับซ้อนทั้งในส่วนของข้อเท็จจริง
และอารมณ์ความรู้สึกชองภาษาได้ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่มีความเกี่ยวข้องกับอาชีพ
และความสนใจของตนเอง สามารถพูดคุยภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ
ในระดับที่สามารถสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้ โดยไม่ทำให้คู่สนทนาเกิดความเครียด
·      
B1 (Lower
Intermediate):   สามารถเข้าใจใจความสำคัญของภาษาอังกฤษในโครงสร้างพื้นฐาน
ในเรื่องที่ตนเองมีความคุ้นเคย เช่น เรื่องในที่ทำงาน โรงเรียน เวลาว่าง ฯลฯ
สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการเดินทางได้
สามารถสร้างประโยคพื้นฐานในการสื่อสารในเรื่องที่ตนเองสนใจได้
สามารถเล่าเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ เหตุการณ์
ความมุ่งหวังของตนเองเป็นภาษาอังกฤษได้ สามารถอธิบายเหตุผล
และความคิดเห็นของตนเองสั้นๆ ได้
3.     
Basic User:
·      
A2 (Elementary):   สามารถเข้าใจประโยคภาษาอังกฤษที่มักจะพบเจอบ่อยๆ
ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว ครอบครัว การซื้อสินค้า การเดินทาง ฯลฯ ได้
สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวันได้
สามารถอธิบายความต้องการของตนเองโดยใช้ประโยคพื้นฐานได้
·      
A1 (Beginner):   สามารถเข้าใจประโยคภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้
โดยเฉพาะในส่วนของที่เป็นข้อเท็จจริง และรูปธรรม สามารถแนะนำตนเอง และผู้อื่นได้
สามารถถามตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย คนที่รู้จัก
สิ่งของที่ตนเองมีได้ สามารถโต้ตอบด้วยภาษาอังกฤษได้
ในกรณีที่คู่สนทนาพยายามช่วยพูดอย่างช้าๆ ชัดๆ
แบบทดสอบ Cambridge English ได้รับการสนับสนุนจากการทำงานโดยทีมงานวิจัยของผู้ให้บริการดำเนินการทดสอบภาษาอังกฤษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งอุทิศตนในด้านนี้โดยเฉพาะ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบบทดสอบกรุณาไปที่เว็บไซต์www.cambridgeenglish.org
อ้างอิง
Exams.(ม.ป.ป.). เข้าถึงได้จาก:http://www.cambridgeenglish.org/exams/.
(วันที่ค้นข้อมูล: 14 กันยายน 
       2558). 
CEFR
(Common European Framework of Reference for Languages).(ม.ป.ป.).เข้าถึงได้จาก:
http://www.act-english.com/about/cefr/. (วันที่ค้นข้อมูล: 14 กันยายน 2558). 
Thailand. (ม.ป.ป.). เข้าถึงได้จาก:http://www.cambridgeenglish.org/countries/thailand/. (วันที่ค้นข้อมูล: 
14 กันยายน 2558).
Wil.(2556).TOFEL, IELTS และ CO- จะสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอันไหนดี. เข้าถึงได้จาก:
http://www.englishtown.com/th-th/blog/which-exam-should-i-take/.
(วันที่ค้นข้อมูล: 14 กันยายน 
      2558). 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น